สิ่งเหล่านี้...ของพี่เล็ก Greasy Café
…..เมื่อนักร้องไม่ใช่แค่ผู้ขายเสียง.....
ในวันที่ศิลปินนักร้องกลายเป็นอาชีพที่นำมาซึ่งชื่อเสียงเงินทอง ได้รับความนิยมยกย่องให้มีเกียรติ จนกลายเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คน เห็นได้จากเวทีการแข่งขันร้องเพลงที่ผุดขึ้นมากมาย มองไปทางไหนก็เห็นนักร้องเต็มไปหมด แต่จะมีนักร้องสักกี่คน ที่บทเพลงของเขาเป็นมากกว่าแค่ประโยคประกอบทำนอง แต่เพลงที่ร้องและสิ่งที่ทำประกอบกันแล้ว เข้าไปมีอิทธิพลกับใครอีกคนหนึ่ง หนึ่งในนักร้องเพียงไม่มีคน นั้น
ต้องมีชื่อ “อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร” หรือที่เรารู้จักกันในนาม พี่เล็ก Greasy Café นั่นเอง
พี่เล็ก Greasy Café คือใคร ??? พี่เล็กมีชื่อจริงว่า อภิชัย
ตระกูลเผด็จไกร เป็นสมาชิกวง Greasy Café สังกัดค่ายเพลง SMALLROOM
พี่เล็กเป็นทั้ง นักร้อง
นักแต่งเพลง ช่างภาพนิ่ง
และเป็นนักแสดงภาพยนตร์ ผลงานของพี่เล็กมีมากมาย ทั้งอัลบั้มเพลงต่าง ๆ แต่อาจจะไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เพราะการทำงานของพี่เล็กไม่มีแผนประชาสัมพันธ์ผลงานที่ชัดเจน
ดังนั้นจึงมีคนรู้จักเฉพาะกลุ่มซึ่งอาจจะแบ่งได้เป็น
2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือกลุ่มคนที่เป็นแฟนเพลงพี่เล็กอยู่แล้ว ที่ฟังเพลงหรือติดตามผลงานของพี่เล็กตั้งแต่แรก กับอีกกลุ่มหนึ่งคือพวกคลั่งART
ที่สมัยนี้นิยมเสพงานศิลปะเพื่อให้ตัวเองดูเป็นคนมีสไตล์
มีความเป็นตัวเองสูง ที่มาชอบเพราะภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูมีเอกลักษณ์ของพี่เล็ก
การใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาว
กับหมวกทรงสูงสีดำที่สวมลงบนศีรษะของผู้ชายผมยาว ตามตัวมีรอยสัก และในมือมีกีตาร์คู่ใจ ในแบบฉบับที่พี่เล็กเป็น
ถ้าไปบอกใครๆ ว่ามีพี่เล็กGreasy
Café เป็น Idol ก็คงจะดูเท่ไม่น้อย เพราะขนาดพวกHipster (พวกที่มีแนวทางเป็นของตัวเอง) ก็ยังยกย่องให้พี่เล็กเป็นตัวพ่อของพวกเขา โดยที่พี่เล็กไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
เราเคยถามเพื่อนว่าทำไมถึงชอบพี่เล็ก Greasy Café
คำตอบที่ได้คือ
“ฟังเพลงพี่เล็กครั้งแรกแล้วร้องไห้ ทั้งที่ไม่รู้ชื่อคนร้อง หลังจากที่รู้ว่าพี่เล็กเป็นคนร้องก็ติดตามมาตลอด เพลงของพี่เล็กเป็นเหมือนคำคมเป็นคำสอน” เราถามคำถามเดียวกันนี้กับเพื่อนผู้หญิงอีกคน คำตอบที่ได้รับคือ “ฟังเพลงพี่เล็กแล้วรู้สึกมีพลัง ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรดี แต่รู้สึกว่าฟังแล้วอยากลุกขึ้นมาวาดรูปและทำในสิ่งที่ชอบ
เพลงของพี่เล็กมันออกมาจากใจจริง ๆ ไร้การปรุงแต่ง มันเป็นมุมมองการมองโลกอย่างแท้จริง” คำตอบเหล่านี้ทำให้รู้ว่าเพลงของพี่เล็กสำหรับแฟนคลับแล้ว มันไม่ได้เป็นเพียงแค่เพลงทั่วๆ
ไปที่ขายเสียง
แต่มันมีความหมายมากกว่านั้น
เสียงที่ทุ้มใหญ่ของพี่เล็กเปรียบเสมือนเสียงของผู้ใหญ่ที่ผ่านเรื่องราวมามากมาย เนื้อเพลงที่พี่เล็กเขียนเองมันสามารถสร้างแรงบันดาลใจและส่งต่อพลังให้กับคนฟังเหล่านั้น
มีอยู่หนึ่งเหตุการณ์ที่เราเจอมากับตัวเองคือ ในงานเทศกาลดนตรีแห่งหนึ่งเรายืนอยู่ใกล้ ๆ
บูทขายเสื้อที่พี่เล็กเป็นคนทำ
ซึ่งมีคนมาต่อแถวรอซื้อตั้งแต่บูทขายเสื้อยังตั้งไม่เสร็จ และเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องอึ้งคือ มีผู้ชายร่างกายผอมบาง 2 คนเข้ามาซื้อเสื้อร้านพี่เล็ก โดย2
คนนั้นถามหาไซส์ S จากคนขาย (ซึ่งบอกตามตรงในใจเรายังแอบคิดว่าไซส์
Sมันยังดูใหญ่ไป ถ้าเอาไปใส่บนร่างของผู้ชาย 2 คนนี้) คนขายบอกว่าไซส์ S ไม่มี มีแต่ไซส์ L ผู้ชาย 2 คนนั้นกำลังจะเดินออกจากร้าน
แต่ก็ต้องเดินกลับมาอีกครั้งพร้อมกับควักเงินซื้อเพียงเพราะคนขายพูดประโยคที่ว่า “พี่เล็กใส่ไซส์ L” (ใยจึงซื้อไป
ทั้งที่เธอใส่ไม่ได้)
บูทขายเสื้อของพี่เล็กตั้งไม่กี่ชั่วโมง เสื้อที่เตรียมมาขายก็หมดลงอย่างรวดเร็ว อาจมีคนสงสัยว่าเสื้อที่พี่เล็กทำมาขายมันสวยขนาดไหน
มีลายอะไรทำไมถึงขายหมดเร็วนัก
คำตอบคือเสื้อพี่เล็กเป็นเพียงเสื้อยืดสีขาวธรรมดา ๆ ที่อกด้านหน้าสกรีนคำว่า Greasy Café แต่มันพิเศษตรงที่เสื้อทุกตัวพี่เล็กเป็นคนทำมันเอง
ในงานเดียวกันเราได้มีโอกาสเข้าไปชมการแสดงของพี่เล็ก
ภาพที่เราเห็นมันแตกต่างออกไปจากการดูการแสดงของนักร้องทั่วไป ผู้คนที่มาดูต่างเปล่งเสียงร้องเพลงไปพร้อม ๆ
กับพี่เล็ก สายตาทุกคนมุ่งตรงไปยังภาพผู้ชายผมยาวที่ยืนเล่นกีตาร์และร้องเพลงไปด้วย สายตาของคนหลายร้อยคู่
เต็มไปด้วยพลังบางอย่าง
อาจจะเป็นพลังแห่งความชื่นชม
ศรัทธา เราก็ไม่อาจรู้ได้
แต่นั่นคือสิ่งที่ทำให้รับรู้ได้ว่าพี่เล็กเป็นมากกว่านักร้องในความหมายของคนดู
พี่เล็ก Greasy Café มี FAN PAGE ใน FACEOOK และมี INSTAGRAM ที่คอยอัพเดตความเคลื่อนไหวทั่วไป
เช่นเดียวกับคนอื่น ใน FAN PAGE เหล่านั้นพี่เล็กจะอัพรูปภาพถ่าย ที่ถ่ายทอดเรื่องราวหรือมุมมองต่าง ๆ
จากการกดชัตเตอร์ของพี่เล็กเอง (ลงแต่รูปตึก
เรายังต้องสะอึกกับยอดไลค์)
มีคำคม คติเตือนใจมากมายที่พี่เล็กคิดขึ้นแล้วโพสต์ลงเพื่อให้คนที่ติดตามพี่เล็กได้อ่าน
และมีตารางงานไว้ให้แฟนคลับได้ตามไปให้กำลังใจกัน
มีผู้คนหลายหมื่นคอยติดตามและกดถูกใจ
ช่องทางนี้จึงเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารของแฟนคลับผู้ที่ชื่นชอบในตัวพี่เล็กนั่นเอง
ทั้งหมดที่กล่าวมาเราต้องการจะสื่อว่าปัจจุบันศิลปินนักร้อง มิใช่เพียงผู้ขายเสียงเพลงอีกต่อไป แต่เป็นแบบอย่างทางความคิด เป็น IDOL ให้กับผู้ที่ชื่นชอบ ดังเช่นทุก ๆ อย่างที่ พี่เล็ก Greasy
Café ทำ
ล้วนมีอิทธิพลและเข้าไปอยู่ในใจของผู้ที่ชื่นชอบในผลงานของพี่เล็ก
พวกเขาไม่ได้เสพแค่เสียงเพลงของพี่เล็กเพียงอย่างเดียว แต่เสพทุกอย่างที่เป็น พี่เล็ก Greasy
Café เพลงของพี่เล็กถือเป็นคัมภีร์
เป็นคำสอนให้กับพวกเขา
พวกเขานับถือและเชื่อในผลงานของพี่เล็ก
สำหรับเรามันจึงดูเป็นเรื่องแปลกที่มหัศจรรย์ที่ศิลปินชายคนหนึ่งจะได้รับการยกย่อง
และเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ ได้มากมายขนาดนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น